การแต่งกายของผู้หญิงชาวไทใหญ่จะสวมซิ่นหรือผ้าถุง หญิงสาวมักจะใส่สีสดใส ส่วนแม่บ้านหรือคนแก่จะใส่สีเข้ม ซิ่นชาวไทใหญ่มีทั้งที่ทอขึ้นเองและทำจากผ้าซึ่งได้จากการติดต่อซื้อขาย โดยชาวไทใหญ่ที่อาศัยอยู่บริเวณทะเลสาบอินเลจะนุ่งซิ่นที่ทำขึ้นด้วยเทคนิคมัดหมี่ เรียกกันว่า ซิ่นซิมเหม่ หมายถึง ซิ่นแบบเชียงใหม่ ทั้งนี้บางเทคนิคการทอบางผืนจะใช้จากมัดหมี่เส้นยืน ซึ่งเมื่อนำมาเย็บเป็นผ้าซิ่นแล้วจะได้ลวดลายริ้วขวางลำตัว คล้ายซิ่นต๋าของไทยวนเชียงใหม่ ส่วนไทใหญ่บางกลุ่มนุ่งซิ่นต๋าซึ่งมีลักษณะโครงสร้างคล้ายซิ่นต๋าของไทลื้อ ทั้งนี้อาจเนื่องมาจากความใกล้ชิดด้านชาติพันธุ์และภูมิศาสตร์ เช่น ไทใหญ่ที่อำเภอเวียงแหง จังหวัดเชียงใหม่ ชาวไทใหญ่ในราชนิยมสำนักนำผ้าซิ่นแบบพม่าคือ ซิ่นลุนตะยาอฉิก มาใช้ในการแต่งกายในโอกาสพิเศษด้วย เพราะซิ่นดังกล่าวแสดงออกถึงความมีฐานะ ร่ำรวย นอกจากนี้แล้วพบว่ามีการนำเอาผ้าจากต่างประเทศมาตัดเย็บเป็นผ้าซิ่นด้วย เช่น ผ้าแพร ผ้าปังลิ้น จากจีน เป็นต้น
หญิงไทใหญ่สวมเสื้อที่เรียกว่า “เส้อแซค” ซึ่งมีทั้งแขนสั้นและแขนยาวหลากสี สาบเสื้อป้ายทับไปทางด้านขวา ติดกระดุมผ้าหรือกระดุมเงินกระดุมทอง หญิงสาวเกล้าผมมวยตั้งมี “กุ้ก” และไว้ “สต๊อก” ( หญิงสาวจะไว้สะต้อก ถ้าแต่งงานแล้วจะไม่มีสะต้อก) แม่บ้านหรือคนแก่รวบผมเกล้ามวยเยื้องไปทางด้านหลัง ในเทศกาลที่สำคัญต่างๆ จะสวมเครื่องประดับมากเป็นพิเศษเช่น “สร้อยแขน” หรือกำไลเงิน หรือกำไลทอง “เป่หู” หรือตุ้มหูเงินตุ้มหูทองคำ สร้อยคอทองคำ และเข็มขัดเงินหรือทอง หรือนาค (แหวนโจยหลิ่ม) หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 หญิงไตหันมาแต่งตัวตามสมัยนิยมชุดไตดั้งเดิมพอจะพบเห็นได้ประปรายในผู้สูงอายุ หรือพบในผู้ร่วมงานเทศกาลที่สำคัญและงานทำบุญต่างๆ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น